วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2555


เมืองที่สวยที่สุดในโลก : World's Most Beautiful Cities
วันนี้จะพาไปดูเมืองต่างๆในหลายๆมุมของโลก ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดเลยค่ะ
ถนนแคบๆ มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง และมองผ่านไปที่สวนสาธารณะ โรงอาหาร และสนามหญ้า เป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยเคมบริดส์ ประเทศอังกฤษ ทางเหนือของกรุงลอนดอน โดดเด่นด้วยวิวของแม่น้ำ อาคารทั้งเก่าและใหม่ ดังเช่นอาคารประวัติศาสตร์ โบสถ์คิงส์คอลเล็จ และ Cambridge University's modern Centre for Mathematical Sciences
เมืองใหญ่ที่สวยงาม … กรุงโตเกียว เมืองที่มีทั้งอาคารสูง 50 ชั้น และคฤหาสน์โบราณ อันเป็นเมืองโปรดของ อมานดา เรโนลด์ สมาชิกของกลุ่ม U.K.'s Urban Design Group ซึ่งเป็นกลุ่มที่รวมการออกแบบอาคาร การจัดภูมิทัศน์ และการวางผังเมือง เข้าไว้ด้วยกัน
อมานดากล่าวว่า ไม่ใช่จะเป็นเพียงสถาปัตยกรรมของโตเกียวเท่านั้นที่ทำให้เมืองนี้สวยงาม แต่โตเกียวยังเปี่ยมด้วยอารมย์ของโครงสร้างและความมีระเบียบวินัย ในขณะที่ผู้คนมีรอยยิ้มบนใบหน้า และโค้งให้ซึ่งกันและกัน เมื่อเดินเข้าไปในซอยเล็กๆที่เปี่ยมพลังและมีชีวิตชีวาด้วยแสงนีออนในยามค่ำคืน
เมืองทั้งสองอยู่ในรายชื่อของเมืองที่สวยที่สุดในโลก รวมถึง ปารีส แวนคูเวอร์ ซิดนีย์ ฟลอเร็นซ์ และเวนิส
เนื่องจาก ความงาม” เป็นเพียงความรู้สึกที่จับต้องไม่ได้ การสำรวจดำเนินโดยการให้ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญด้านเมืองใหญ่หลายสาขา รวมถึงเรื่องของ การวางผังเมือง สถาปัตยกรรม และการพัฒนาที่ยั่งยืน
ผู้ที่ให้ความเห็น ประกอบด้วย เรโนลด์ และ มิเชล คอร์ฟแมน สถาปนิกของบริษัท Goettsch Partners ในชิคาโก นอกจากนี้ยังมี เรมอนด์ ลีวิท กรรมการด้านก่อสร้างและสิ่งแวดล้อมของมหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ด โทนี่ แมคกริก นักออกแบบผังเมือง นักออกแบบโครงสร้าง และประธานกรรมการของ BDP ในลอนดอน เจ ฮิว โอโดแนล จาก urban engineering firm International และ เคน ดรักเกอร์ นักออกแบบจากนิวยอร์ค และกรรมการของบริษัทรับออกแบบ HOK
เมืองแห่งแสงสี … ปารีส ได้รับการยอมรับในเรื่องของถนนหนทางที่กว้างขวาง เลน ความมีชีวิตชีวาบนท้องถนน และสิ่งก่อสร้างที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง เช่น Grand Palais และมิติทางสถาปัตยกรรมของสิ่งก่อสร้างแบบอังกฤษที่แตกต่างปนอยู่ด้วย ซึ่งช่วยส่งเสริมความเป็นเอกลักษณ์และความแตกต่าง (ความเป็นเอกลักษณ์ ของปารีส ได้รับอิทธิพลมากจากสิ่งที่เรียกว่า Haussmann plan จากศตวรรษที่ 19 ซึ่งเห็นได้จากสถาปัตยกรรมการการสร้างตึกต่างๆ)
พลังของปารีส ความเหมือน” ทำให้เมืองที่สวยงามนี้สามารถรับสิ่งที่แตกต่างไม่เหมือนใคร (ในช่วงเวลานั้น) เช่น หอไอเฟล ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างล้ำสมัย Centre Pompidou (โดยสถาปนิกชาวอังกฤษและอิตาเลียนซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างต้นแบบและสร้างสรรค์ นอกจากนี้ การจำกัดความสูงในอดีต ทำให้หอแห่งนี้ถูกจำกัดในเรื่องของการออกแบบก่อสร้างตามไปด้วย
หากแต่ คุณไม่รู้สึกเหมือนกับการเดินในแสงเงาเหมือนกับส่วนอื่นๆของเมือง” คอร์ฟแมนกล่าว
ในขณะที่ปารีส โดดเด่นในเรื่องของการออกแบบและสิ่งก่อสร้าง แวนคูเวอร์มีชื่อเสียงในด้านความสวยงามของธรรมชาติ เมืองในโอบกอดของโค้งอ่าวและบรรยากาศเปิด – จากความเขียวขจีทางด้านตะวันตก จากแคมปัสในบริเวณมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย ไปจนถึงสวนสาธารณะ สแตนเลย์ ที่กว้างใหญ่นอกเมือง
นอกจากนี้ ทั้งบริเวณภูเขาที่มีหิมะและมหาสมุทรแปซิฟิก เป็นฉากหลังที่สวยงามจากธรรมชาติ ทั้งนี้รวมถึงวัฒนธรรมและอาหารที่หลากหลาย ทำให้เมืองนี้น่าไปสัมผัสมากมาย
บรรยากาศที่เปิดโล่งทำให้เคปทาวน์มีความพิเศษ ลีวิทซ์กล่าว
นักเดินเรือที่มีชื่อเสียงชาวอังกฤษ เซอร์ ฟรานซิส เดรก เคยกล่าวถึงเคปทาวน์ว่า เป็นแหลมที่น่าพิสมัยที่สุดในโลก
เมืองนี้มีสวนพฤกษศาสตร์ Kirstenbosch ที่สวยงาม และ ณ ยอดภูเขาที่ความสูงประมาณ 3,500 ฟุต จะมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองที่สวยงามจนแทบลืมหายใจเชียวล่ะ ลีวิทซ์ ซึ่งเป็นวิศวกรโครงสร้าง ชื่นชมเมืองนี้ ด้วยเหตุที่เป็นเมืองที่มีขนาดพอดีที่สามารถบริหารจัดการเมืองได้ไม่ยาก
ซิดนีย์ เป็นอีกเมืองที่สวยงามด้วยธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอ่าวและท่าเรือน้ำลึกซึ่งมองเห็นได้จากเกือบทุกหนทุกแห่งของเมืองที่สูงๆต่ำๆด้วยเนินเขาของเมือง ในขณะที่ซิดนีย์ไม่ค่อยจะหนาวสักเท่าไหร่ เมืองนี้จะสวยงามเป็นพิเศษในฤดูใบไม้ผลิ
ซิดนีย์จะสวยที่สุด ในเดือนตุลาคม และเดือนพฤศจิกายน เมื่อต้น Jacaranda นับล้านต้นถูกวางเรียงรายตามถนนในเมือง .. และแย้มกลีบดอกสีม่วงบานเป็นแถวบนถนน แม้ในบริเวณนอกเมือง” เรโนลด์กล่าว
อัญมณีแห่งอิตาลี … ฟลอเร็นซ์ และเวนิส เป็นอีก เมืองที่อยู่ในรายชื่อเมืองสวยของโลก
ฟลอเร็นซ์ ให้อารมณ์สุนทรีของงานสถาปัตยกรรมในอดีต ซึ่งเป็นแบบโกธิก เช่น Basilica di Santa Maria del Fiore และ แกลเลอรี่ Uffizi ในบริเวณตัวเมืองสามารถเดินได้ง่ายๆ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมความงามของเมืองได้โดยการเดินไปเรื่อยๆ
ฟลอเร็นซ์ยังเป็นเมืองที่มีลานสาธารณะที่กว้างขวาง มีคาเฟ่และรายล้อมไปด้วยอาคารที่สวยงาม เช่นที่ Palazzo Vecchio ที่ลานสาธรณะPiazza della Signoria คุณจะไม่สามารถไปที่ใดๆในโลกทีมีลานสาธารณะที่งดงามเช่นที่นี่” แมคเกริก กล่าว
เวนิส … เมืองแห่งสายน้ำ และมีประวัติศาสตร์ของเมืองที่ยาวนาน (ครั้งหนึ่งเมืองนี้เคยเป็นสาธารณรัฐซึ่งเคยได้รับการกล่าวถึงว่าเป็น ดิสนีย์แลนด์ของผู้ใหญ่
เวนิส เป็นเมืองโบราณด้วยความอลังการของอาคารสถานที่ และดูจะสบายๆในการเสื่อมถอย เช่นสีซีดๆของอาคาร และงานก่อหินทีประตูทางเข้าอาคารและกรอบหน้าต่าง คลองที่ลดเลี้ยว และทางเดินแคบๆที่เพิ่มเสน่ห์ของความลึกลับของสถานที่หลายๆแห่ง เรโนโนลด์กล่าว
 
ซานฟรานซิสโก … ได้รับการยกย่องในเรื่องของสะพานแขวน พื้นที่ของเมืองที่เป็นเนินเขา รถรางเคเบิ้ลคาร์ รวมถึงความงดงามของธรรมชาติที่เกิดจากผืนน้ำรอบๆเมือง
ในขณะที่ชิคาโกได้รับความนิยมในเรื่องของความเขียวขจีของบริเวณพื้นที่สาธารณะ เช่น การพัฒนาของสวนสาธารณะมิลเลเนียม และการปลูกดอกไม้จำนวนมากมายมหาศาล
ความงามของสถาปัตยกรรมในนิวยอร์กซิตี้ … ขอบฟ้าที่น่าตื่นตาของแมนฮัตตัน อาคารเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์ซึ่งสร้างความแตกต่างจากอาคารทันสมัย เช่น อาคารกลางใจเมือง ของธนาคารแห่งอเมริกา
คนบางคน เช่น ลีวิทซ์ ยังชื่นชมบรรยากาศของเมืองแห่ง บิกแอปเปิ้ล อีกด้วย เขากล่าวว่า เมื่อราว 20 ปีก่อน เขาไม่แม้แต่จะมีรายชื่อของนิวยอร์กอยู่ในหัวเลย
เขากล่าวว่าการลดลงของอัตราการก่ออาชญากรรมทำให้ผู้คนกล้าออกมาเดินเล่นและชื่นชมความงามน่าอัศจรรย์ของวิถีชีวิตบนถนนในเมืองแห่งนี้ได้
ท้ายที่สุด เราไม่สามารถเลยผ่าน ลอนดอน ไปได้ 
หากปารีสมีโครงสร้างที่สวยงาม ลอนดอนก็จะเป็นอะไรที่ตรงข้าม เป็นเมืองที่ปะติดปะต่อได้อย่างสวยงาม” แมคกริก กล่าว ด้วยเหตุที่ลอนดอนมีอายุหลายร้อยปี เมืองนี้จึงไม่มีโครงสร้างในแพทเทินเดียวกัน อันเป็นเหตุให้รูปแบบของสถาปัตยกรรมของลอนดอนอยู่ในรูปของความหลากหลาย” ซึ่งเป็นอะไรบางสิ่งที่ แมตกริก ชื่นชอบ
รูปลักษณ์ที่แตกต่างอาจจะทำให้เมืองเหล่านี้มีความแปลกแยกไม่เหมือนกันไป
ในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำมันอาจจะไม่มีแรงดึงดูดเพียงพอที่จะโน้มน้าวนักท่องเที่ยวที่ต้องประหยัดรัดเข็มขัดอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่แต่ละประเทศมีการแข่งขันแย่งชิงนักท่องเที่ยวให้มาใช้จ่ายในประเทศของตน
การสำรวจทางด้านการตลาดทั่วโลกจากหนังสือ Euromonitor ซึ่งตีพิมพ์ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ได้พยากรณ์ว่าการท่องเที่ยวโดยรวม (ในปี2008 World Tourism Organization รายงานว่า มีมูลค่า 944,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จะเติบโตขึ้น แต่ก็ยังต่ำกว่าระดับปกติ

10 อันดับ เมืองที่ดีที่สุดในโลก 2012

เว็บไซต์ดิอีโคโนมิสต์ เผย 10 อันดับ เมืองที่ดีที่สุดในโลก 2012 จากการจัดอันดับของ Economist Intelligence Unit หน่วยงานชื่อดังด้านการศึกษา และวิจัยข้อมูลด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม เกณฑ์การให้คะแนนวัดจาก โครงสร้างผังเมือง จำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น การศึกษา สุขภาพ ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม โดยตัดสินคัดเลือกจาก 70 เมืองทั่วโลก ผลปรากฏว่า ฮ่องกง คว้าแชมป์ที่ 1 ไปครองตำแหน่ง เมืองที่ดีที่สุดในโลก 2012 ส่วนอันดับต่อๆ มานั้น ก็ล้วนเป็นเมืองสวยงามน่าไปเยือนทั้งสิ้น

เมืองที่ดีที่สุดในโลก อันดับ 1 ฮ่องกง ประเทศจีน

เมืองที่ดีที่สุดในโลก 2012 อันดับ 2 อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
 เมืองที่ดีที่สุดในโลก 2012 อันดับ 3 โอซากา ประเทศญี่ปุ่น

เมืองที่ดีที่สุดในโลก 2012 อันดับ 4 ปารีส ประเทศฝรั่งเศส

เมืองที่ดีที่สุดในโลก 2012 อันดับ 5 ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย

เมืองที่ดีที่สุดในโลก 2012 อันดับ 6 สต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน

เมืองที่ดีที่สุดในโลก 2012 อันดับ 7 เบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี

เมืองที่ดีที่สุดในโลก 2012 อันดับ 8 โตรอนโต ประเทศแคนาดา

เมืองที่ดีที่สุดในโลก 2012 อันดับ 9 มิวนิก ประเทศเยอรมนี

เมืองที่ดีที่สุดในโลก 2012 อันดับ 10 โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
 10 อันดับ เมืองที่ดีที่สุดในโลก ปี 2012

สถาปัตยกรรมแปลกที่สุดในโลก

College of Art & Design Ontario (Toronto, Canada)

อาคารมีลักษณะคล้ายเกมปริศนาอักษรไขว้นี้ผู้เชี่ยวชาญหลายสไตล์ของสถาปัตยกรรม"ในแผ่นดิน. ขึ้นใกล้อาคารมีลักษณะแปลกมาก สถาปนิกจะ British Alsop ได้ใส่ชุดของสตูดิโอศิลปะและพื้นที่สำนักงานในโรงเรียนเต็มไปด้วยสีสันสดใสสนุกสนาน

ปีเตอร์สเบิร์กอาคารบาร์โค้ด (เซนต์, Russia)



ตั้งอยู่บนธนาคารของ Neva River, อาคารนี้ได้รับการแปลงบาร์โค้ด -- อาการที่พบบ่อยที่สุดของการค้า -- เป็นรุ่น -- motif strong สถาปัตยกรรม สีแดงสดใสงานพื้นที่รอบเมือง นอกจากนี้ยังมีอาคารหลายรูปแบบสถาปัตยกรรมคล้ายกับดิกซี่ Cup Water Tower ในเลกซิงตัน -- Kentucky, อาคาร Uniroyal ยางใน Detroit, อาคารบาร์โค้ดใน Munich -- Germany ...

บ้าน Bioscleave (East Hampton, New York)



คู่อาราคาและศิลปิน Madeline Gins ออกแบบบ้านในปี 2008 นี้ตามเกณฑ์ของความตั้งใจที่จะก่อให้เกิดความตึงเครียด. บ้านที่มากมายโดยมีรายละเอียดแปลกอสมมาตร : พื้นลูกคลื่น, นูนและเว้าออกแบบซ็อกเก็ตในสถานที่ไม่สะดวก ... ทั้งหมดเพื่อให้คนอาศัยอยู่ในบ้านไม่เคยรู้สึก เสถียรภาพความสะดวกสบายและสัญชาติญาณเพื่อปกป้องการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องของ อาราคาและคู่ Madeline เชื่อว่าเป็นกุญแจสำคัญในอมตะ .... บ้านนี้ขายโดย Sotheby 's Realty ที่สำหรับ $ 4,000,000 -- ราคาต่ำเกินไปที่จะ ... อมตะ!

ห้างสรรพสินค้า Selfridges (Birmingham, England)


สาขาใน Selfridges Birmingham ดูเหมือนเบาะเล็กน้อยลูกคลื่นยักษ์ที่ปกคลุมแผ่นอลูมิเนียมภายนอกโดย 15,000 วับๆ งานนี้ออกแบบโดย บริษัท Future Systems (British บริษัท เชี่ยวชาญในการออกแบบโครงการนวัตกรรม) และถือเป็นงาน groundbreaking อย่างเต็มที่และแรงบันดาลใจในชีวิตใหม่สำหรับสถาปัตยกรรม เทศบาลอยู่ในช่วงถดถอย

Polin Ramot Residence (ประเทศอิสราเอล)


สถาปนิก Zvi โปแลนด์ Hecker ออกแบบบ้านเข้าประกวดการออกแบบในงาน Expo 67 in Montreal นี้ กับรูปห้าเหลี่ยมที่บ้านดูเหมือนรังผึ้งยักษ์ โดยเฉพาะบ้านเหล่านี้ไม่ได้ถูกใช้เป็นแบบอิสราเอลกระทรวงการก่อสร้างในสถานที่สำหรับครอบครัว Jewish ดั้งเดิม

Columbus Lighthouse (Santa Domingo, สาธารณรัฐโดมินิกัน)


ใช้เวลาถึง 40 ปีเพื่อสร้างประภาคารเปิดทันทีในวันครบรอบ 500 ปีในการค้นหา Columbus America ประภาคารครึ่งไมล์ยาว 688 ฟุตสูงได้สูญหาย $ 70,000,000 เพื่อสร้างมัน เป็นผู้เชี่ยวชาญมากในการประเมินสถาปัตยกรรมเป็นก้อนแปลกและสนับสนุนให้ประเทศยากจน สิ่งหนึ่งที่โง่มาก แต่แสงของประภาคารที่สามารถมองเห็นจากด้านล่างของเปอร์โตริโก แต่ไม่เปิดก็มักจะใช้อำนาจ

Tower of Oriental Pearl TV (Shanghai, China)


ตั้งอยู่บนธนาคารของเมลเบิ River ซึ่งเป็นอาคารสูงที่สุดในเขตผู่ตงเซี่ยงไฮ้ของก่อน surpassed by the World Financial Center ในเซี่ยงไฮ้ Jewel of Orient ถูกออกแบบโดย Jiang Cheng เฮือนเสร็จในปี 1995, 468m สูง ฟังก์ชันยังเป็นหอทีวี Oriental Pearl Tower ดาราศาสตร์ยังร้านอาหารหมุนเวียนโรงแรมหอพักเต้นรำ ...

Atomium (Brussels, Belgium)


Atomium ถูกสร้างขึ้นในโอกาส International Fair ใน 1958 รู้สึกโดยวิศวกร André Waterkeyn, sphere Atomium ประกอบด้วย 9 ไอคอน 9 อะตอมในโครงสร้างผลึกของธาตุเหล็ก 9 ทรงกลมมีการเชื่อมต่อโดยท่อและนักท่องเที่ยวสามารถไป 5-9 ลูกมัน เว็บไซต์ของ Atomium เขียนเกี่ยวกับกว่า 50 ปีทำงานเดิมดังนี้"Atomium เป็นประเภทของ UFO ในประวัติศาสตร์มนุษย์ prism สว่างทั้งในอดีตและอนาคต ...."




สถาปัตยกรรมสีเขียวยุคอนาคต

“สถาปัตยกรรมสีเขียว” (Green Architecture) หรือ “ดีไซน์สีเขียว” (Green Design) คือการก่อสร้างอาคารที่มีจุดประสงค์เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์และ สิ่งแวดล้อมให้เหลือน้อยที่สุด ผ่านการเลือกใช้วัสดุและวิธีการก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

        “Green”, “Ecology”, and “Sustainable” ถูกใช้โดยนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ต่อมาเมื่อสถาปัตยกรรมได้ให้ความสนใจในความสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น คำเหล่านี้จึงถูกนำมารวมกับสถาปัตยกรรม โดยให้ความหมายที่สื่อถึง งานสถาปัตยกรรมที่คำนึงถึงระบบนิเวศน์ สิ่งแวดล้อมและเป็นสถาปัตยกรรมที่มีออกแบบโดยคำนึงถึงความยั่งยืนของ ธรรมชาติ สถาปัตยกรรมในแนวความคิดนี้มีเป้าหมายในการออกแบบที่จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวด ล้อมน้อยที่สุดและสร้างสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่ มีผลดีต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย ความหมายเชิงลึกของคำเหล่านี้เกี่ยวพันไปถึงเรื่องที่สถาปนิกจะทำได้เพื่อ การรักษาเยียวยา รวมไปถึงการขยาย สืบต่อ หรือทำให้โลกสามารถรองรับความเปลี่ยนแปลงและคงอยู่เพื่อมนุษยชาติในรุ่นต่อๆ ไป

พีระมิด ชิมิสุ เมกะ-ซิตี้ ยังคงเป็นเพียงจินตนาการ เนื่องจากต้องพัฒนาวัสดุก่อสร้างที่มีน้ำหนักเบาให้ได้ก่อน อย่างไรก็ตาม สถาปนิกวางแผนจะสร้างตึกระฟ้าภายในพีระมิดแห่งนี้ ซึ่งจะลอยอยู่ภายในอ่าว โตเกียว

ลอนดอน บริดจ์ ทาวเวอร์ หรือ "เดอะชาร์ด" ความสูง 1,000 ฟุต จะสร้างสำเร็จในปี 2012 และจะกลายเป็นอาคารสูงที่สุดในทวีปยุโรป ภายในประกอบด้วยสำนักงาน, แฟลต, ภัตตาคาร และ โรงแรม


หอคอยรูปต้นไม้ในเมืองไทชุงของไต้หวัน มีลานชมวิวที่บรรจุก๊าซฮีเลียม ช่วยให้สามารถลอยขึ้นไปตามความสูงของหอได้ หอคอยแห่งนี้จะเริ่มก่อสร้างในปีหน้า โดยจะมีแผงโซลาร์เซลล์ และ เครื่องเก็บกักน้ำฝน ภายในมีสำนักงาน, ร้านอาหาร และ พิพิธภัณฑ์ให้คนเยี่ยมชม

มาสดาร์ ซิตี้ ในเมืองอาบูดาบี จะเปิดบริการเต็มรูปแบบในปี 2020 โดยห้ามนำรถยนต์มาใช้ในเมือง และมีระบบรีไซเคิลน้ำ


สนามกีฬา อัล ฆอร์ สเตเดียม ในกาตาร์ ถูกสร้างขึ้นสำหรับการแข่งขันฟุตบอล เวิลด์ คัพ ในปี 2022 มีทั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์และเครื่องปรับอากาศ ที่จะทำให้อุณหภูมิภายในต่ำกว่า 80 องศาฟาเรนไฮต์ (26 องศาเซลเซียส)

โซจิ โอลิมปิก สเตเดียม ในรัสเซีย เป็นสนามกีฬาถาวรสำหรับกีฬาฤดูหนาวในปี 2014 กำแพงและหลังคาถูกปูด้วยแผ่นคริสตัลที่ช่วยสะท้อนแสงอาทิตย์ และจะเปิดไฟสว่างไสวในเวลากลางคืน


หอคอยลอยน้ำ "ไกร์" (Gyre) เป็นทั้งรีสอร์ตและสถานีวิจัย สามารถล่องลอยข้ามมหาสมุทรได้

อาคาร "ซีสเครเปอร์" (Seascraper) ถูกออกแบบให้สามารถจอดในที่ซึ่งกระแสน้ำไหลแรง เพื่อสร้างพลังงานสะอาด


นครปารีสเริ่มให้สถาปนิกออกแบบอาคารให้มีบรรยากาศร่มรื่นเหมือนชานเมือง
ที่มา http://52011112007.blogspot.com/2012/04/blog-post.html
กำแพงหินและหมู่บ้านหินสีน้ำผึ้งที่ "คอทส์โวลส์"
คอทส์โวลส์ (The Cotswolds) เป็นพื้นที่เนินเขาซึ่งทอดยาวระหว่างเมืองท่องเที่ยวอย่าง สแตรทฟอร์ดอัพพอนเอวอน บาธ และอ็อกฟอร์ด ประกอบไปด้วยหมู่บ้านที่สร้างขึ้นด้วยหินสีน้ำผึ้ง คฤหาสน์โอ่อ่า โบสถ์วิหารอลังการ กำแพงหินซ้อน และคันทรีผับสนุกๆ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะตัวของอังกฤษ



     ในยุคกลาง เศรษฐกิจของคอทส์โวลส์ต้องพึ่งพาขนแกะคุณภาพเยี่ยม ความมั่งคั่งจากการค้าขนแกะถูกนำมาสร้างเป็นโบสถ์ที่สวยงาม ตลอดจนกำแพงหินซ้อนเพื่อล้อมสัตว์ที่เลี้ยงไว้ นอกจากนี้ ยังมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นมากมาย อาทิ อาคารสีขาวดำในยุคกลางที่ทูคสบรีและรีเจนซี่เฮาส์ในเชลท์แน่ม

     นอกจากนั้นคุณจะพบกับร้านค้าท้องถิ่นมากมาย ตั้งแต่ร้านขายของเก่าที่สโตว์ออนเดอะโวลด์และเทตเบอรี ไปจนถึงงานฝีมือร่วมสมัยในไซเรนเซสเตอร์ นอกจากนี้ ยังมีแหล่งช้อปปิ้งเสื้อผ้าแฟชั่นและของขวัญในรีเจนซี่ เชลท์แน่ม สินค้าคุณภาพดีที่ร้านไฮโกรฟของฟ้าชายชาร์ลในเทตเบอรี และร้านขายอาหาร รวมถึงอาหารพื้นเมืองรสเลิศที่เดย์เลสฟอร์ด ออแกนิก ฟาร์มช็อป

     คอทส์โวลส์ เป็นหนึ่งในเมืองที่มีทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่ชวนหลงใหลที่สุดในบริเทน เที่ยวชมสวนต้นไม้ วนอุทยานขนาดเล็กและใหญ่ทั้งสองแห่ง องค์การอนุรักษ์แห่งชาติ และพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กที่น่าสนใจบางแห่ง สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญระดับประเทศ ได้แก่ ไวล์ดโฟลด์ แอนด์ เว็ตแลนด์ทรัสต์ที่สลิมบริดจ์ Gloucester Cathedral สวน Westonbirt Arboretum และ Hidcote Manor



     เพลิดเพลินใจไปกับสวนเขียวชอุ่มอย่าง Hidcote Manor หรือ คิฟต์สเกท คอร์ท จากนั้นเดินทอดน่องไปตามคอทส์โวลด์ เวย์ องค์การทางเดินแห่งชาติที่ตั้งอยู่ระหว่างชิปปิ้ง แคมป์เดน และ บาธ

     เรียนรู้เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของงานศิลปะและหัตถกรรมที่ Kelmscott Manor และ Cheltenham Art Gallery & Museum เที่ยวชมสถาปัตยกรรมทางศาสนาอย่าง Gloucester Cathedral หรือ Tewkesbury Abbey

     เฝ้าดูชีวิตสัตว์ป่าที่ คอทส์โวลด์ ฟาร์ม ปาร์ค หรือ Wildfowl and Wetlands Trust ต่อมาชมการแสดงที่โรงละครประวัติศาสตร์เอฟเวอรี่แมน เธียเตอร์, เชลท์แน่ม (อาคารที่ออกแบบโดยแฟรงค์ แมชชัม) ชมการแสดงในฤดูร้อนที่ลองบอรูจ เฟสติวัล โอเปร่า หรือคอนเสิร์ตที่ Westonbirt Arboretum หรือชมเทศกาลหนังสือหรือเทศกาลดนตรีแจ๊ส สุดท้ายชมแสงเทียนยามค่ำคืนที่สวยงามจับใจในฤดูหนาวที่ Berkeley Castle หรือ Blenheim Palace

     คอสโวลดส์ เป็นสวรรค์ของนักขี่ม้า ซึ่งมีเทศกาลล่าสัตว์แห่งชาติ (รวมถึงโกลด์ คัพ) ที่กินเวลาประมาณหนั่งสัปดาห์ในช่วงเดือนมีนาคมของทุกปี และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายที่แกตคอมบ์ และแบดมินทัน
ที่มา 
http://travel.thaiza.com/%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%
B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%
E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%
E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0
%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%9C%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%97%
E0%B8%B5%E0%B9%88+%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%AA%E0%B9%8C
%E0%B9%82%
E0%B8%A7%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B9%8C/193145/

บันทึกความทรงจำดีๆ ระลึก 100 ปี พระราชวังสนามจันทร์

หลังจากที่ได้ยินข่าวการประชาสัมพันธ์ เกี่ยวกับงาน “ระลึก 100 ปี พระราชวังสนามจันทร์” มาระยะหนึ่ง ผมก็ตั้งใจว่าจะหาเวลาไปเที่ยวชมงานนี้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ (ตามคำเชิญชวนในสปอทโฆษณา อิอิ!) และผมก็เชื่อว่าคงมีท่านผู้อ่านอีกหลายท่านได้ไปชมงานนี้มาเช่นกัน

งานนี้จัดขึ้น เป็นเวลา 11 วัน คือวันที่ 23 พฤศจิกายน ถึง 2 ธันวาคม 2550 ที่ผ่านมานี้เองครับ แต่ละวันก็จะมีกิจกรรมพิเศษที่น่าสนใจต่างๆ หมุนเวียน เปลี่ยนกันไป อาทิ การจุดพลุและดอกไม้ไฟ การแสดงดนตรี ทั้งที่เป็นวงโยทวาทิต และดนตรีสดบนเวที การแสดงนาฏศิลป รวมถึงการจัดแสดงงานศิลปะ์ต่างๆ เรียกว่าหากใครมีเวลาว่างไปคอยชมก็คงเก็บความประทับใจกลับบ้านได้ทุกวันเลยทีเดียว
ตัวผมเองยังรู้สึกเสียดายครับ กว่าจะเคลียร์ธุระต่างๆ เพื่อหาเวลาว่างไปชมงานก็ปาเข้าไปวันสุดท้ายครับ แต่ไม่เป็นไรครับ ตั้งใจว่าจะไปก็ต้องไปครับ

ผมออกเดินทางในบ่ายแก่ๆ ของวันที่ 2 ธันวาคม ออกจากกรุงเทพมหานคร ด้วยเส้นทางปิ่นเกล้า – นครชัยศรี มุ่งหน้าสู่จังหวัดนครปฐม วันนี้รถค่อนข้างเยอะครับ มีติดบ้างเป็นระยะๆ และเข้าใจว่าเพื่อนร่วมทางส่วนใหญ่ น่าจะมีจุดหมายเดียวกัน

และแล้วผมก็เดินทางมาถึง “พระราชวังสนามจันทร์” ในช่วงหัวค่ำ และเป็นไปตามคาดครับ ด้านหน้าทางเข้างาน หนาแน่นไปด้วยผู้คน ที่รอซื้อบัตรผ่านประตู และอีกส่วนก็เข้าแถวเพื่อผ่านการตรวจสิ่งของ โดยเจ้าหน้าที่รักษาความ
ปลอดภัย ซึ่งเป็นธรรมดาของการเข้าเขตพระราชฐานครับ หลังจากซื้อบัตรเรียบร้อยก็เข้าสู่บริเวณพระราชวังสนามจันทร์ ที่วันนี้ประดับประดา ตกแต่งไฟ อย่างสวยงามไปทั่วบริเวณ ทั้งพระที่นั่ง พระตำหนัก อาคาร เรือนต่างๆ รวมถึงต้นไม้ก็ได้รับการประดับไฟอย่างสวยงามจริงๆ ครับ

ในมุมหนึ่งของพระราชวังสนามจันทร์มีการจัดแสดงผลงานภาพเขียน
ในมุมต่างๆ ของพระราชวังสนามจันทร์
ภาพพระราชวังสนามจันทร์ ที่ผมเห็นในวันนี้ ไม่ต่างจากในความทรงจำเก่าๆ ของผมเท่าไรนัก ซึ่งเป็นภาพความทรงจำในสมัยที่ผมยังเรียนอยู่ชั้นประถม และยังจำอะไรไม่ค่อยได้ จำได้เพียงภาพ ของย่าเหล สุนัขผู้ซื่อสัตย์และจงรักภักดี (อิอิ! เชื่อว่าซื่อสัตย์กว่านักการเมืองบางคน)ขององค์พระบาทสมเด็จ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๖ ยืนท้าแดดลมอยู่หน้าอาคารหลังหนึ่ง ที่ดูคล้ายปราสาทเทพนิยายในการ์ตูนของวอลท์ดิสนีย์ ซึ่งก็คือพระตำหนักชาลีมงคลอาสน์นั่นเอง
ซึ่งแม้เวลาผ่านไปนับสิบๆปี พระตำหนักแห่งนี้ก็ยังคงได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี และในวันนี้ผมยังได้ชม พระที่นั่ง และพระตำหนักอื่นๆ รวมถึงอาคารต่างๆ ที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ ที่นับอายุมาถึง ณ วันนี้ได้ 100 ปีแล้ว

ในโอกาสนี้ผมขอเล่าถึง ประวัติ และ ข้อมูลของพระราชวังสนามจันทร์คร่าวๆ พร้อมเก็บภาพบรรยากาศในงานมาฝาก
เล็กน้อย หากผิดพลาดประการใด ก็ต้องขออภัยด้วยครับ

พระราชวังสนามจันทร์ ตั้งอยู่ในจังหวัดนครปฐม อยู่ห่างจากองค์พระปฐมเจดีย์ ประมาณ 1 กิโลเมตร โปรดเกล้าให้สร้างโดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ (เมื่อยังดำรงพระยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ในปี พ.ศ.๒๔๕๐ มีพื้นที่ 888 ไร่ 3 งาน 24 ตารางวา มีพระยาวิศุกรรมศิลป์ประสิทธิ์ (น้อย ศิลปี) เป็นผู้ออกแบบและดำเนินการสร้าง ทรงพระราชทานนามว่า “พระราชวังสนามจันทร์” ใช้เป็นที่แปรพระราชฐานในสมัยรัชกาลที่ ๖ และใช้เป็นที่มั่น เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับวิกฤตกาณ์ของประเทศในสมัยนั้น เพราะพระราชวังสนามจันทร์ตั้งอยู่ในชัยภูมิที่เหมาะสม และยังทรงใช้เป็นสถานที่สำหรับซ้อมรบเสือป่า

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2546 คณะกรรมการอำนวยการบูรณะพระราชวังสนามจันทร์ ซึ่งสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี องค์ประธาน ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย นายนาวิน ขันธหิรัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม มหาวิทยาลัยศิลปากร โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ลิขิต กาญจนาภรณ์ รองอธิการบดี วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ ได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายคืนพระราชวังสนามจันทร์ ให้สำนักพระราชวัง

ปัจจุบันพระราชวังสนามจันทร์ เปิดให้เข้าชม พระที่นั่งพิมานปฐม, พระที่นั่งอภิรมย์ฤดี, พระที่นั่งวัชรีรมยา, พระที่นั่งสามัคคีมุขมาตย์, เทวาลัยคเณศร์, พระตำหนักชาลีมงคงอาสน์, พระตำหนักมารีราชรัตบัลลังก์,
พระตำหนักทับขวัญ และเรือนบริวารต่างๆ ซึ่งมีรายละเอียดคร่าวๆ ดังนี้

พระที่นั่งพิมานปฐม 
เป็นพระที่นั่งองค์แรกที่สร้างใน พ.ศ.๒๔๕๐ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน 2 ชั้น แบบตะวันตก มีช่องระบายลม และระเบียงฉลุลายไม้ที่เรียกว่า “ขนมปังขิง” อย่างงดงาม ภายในพระที่นั่งฯ ยังมีป้ายชื่อห้องปรากฏอยู่ (ป้ายเดิมที่มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๖) เช่น ห้องชวนพัก ห้องพระบรรทม ห้องบรรณาคม ห้องพระภูษา ห้องสรง ห้องเกย ห้องเสวย ห้องพระเจ้า พระที่นั่งองค์นี้พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๖ ใช้เป็นที่ประทับก่อนขึ้นครองราชย์ รับรองพระราชอาคันตุกะและเสด็จออกให้ราษฎรเข้าเฝ้า ปัจจุบันภายในจัดแสดงสิ่งของมีค่า ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ รัชกาลที่ ๙ ในวโรกาสที่สำคัญต่างๆ
ชั้นล่างภายในห้องชวนพัก แสดงรูปจำลองสิ่งก่อสร้างรอบพระราชวังสนามจันทร์ นครวัดจำลองทำด้วยเงิน ทูลเกล้าถวายโดยสมเด็จเจ้านโรดม สีหมุนี, รูปจำลองโลหะปราสาท และปราสาทพระเทพบิดรทำจากกระดาษ
ห้องจีน จัดแสดงชุดรับรองแขกจากประเทศจีน ทูลเกล้าถวายโดยรัฐบาลจีน ทำจากไม้แกะสลักเป็นรูปมังกร
ห้องพระเจ้า เป็นหอพระประจำพระราชวังสนามจันทร์ ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังลาย “เทพประณม” โดยรอบ ฝีมือพระยาอนุศาสน์จิตรกร นามเดิมจันทร์ จิตรกร กลางห้องประดิษฐานพระมหาเศวตฉัตร จากห้องพระเจ้ามองออกไปทางทิศตะวันออก จะเห็นองค์พระปฐมเจดีย์ เทวาลัยคเณศร์เป็นแนวเดียวกัน
พระที่นั่งอภิรมย์ฤดี 
เชื่อมต่อจากพระที่นั่งพิมานปฐม ออกไปทางทิศใต้ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน 2 ชั้น แบบตะวันตก ประดับลวดลายไม้ฉลุเหมือนกับพระที่นั่งพิมานปฐม ใช้เป็นที่ประทับเจ้านายฝ่ายใน ในสมัยนั้น ปัจจุบันภายในพระที่นั่งฯ ชั้นบนจัดแสดงห้องพระบรรทม ห้องทรงงานเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศในสมัยก่อน

พระที่นั่งวัชรีรมยา 

สร้างขึ้นหลัง พ.ศ. ๒๔๖๐ (หลังจากที่สร้างพระที่นั่งสามัคคีมุขมาตย์) โดยสร้างทางเชื่อมชั้นล่างให้ถึงกันซึ่งมองดูแล้วเหมือนพระที่นั่งแฝด ลักษณะทรงไทยก่ออิฐถือปูน 2 ชั้น
มุงกระเบื้องเคลือบสี ทำนองเดียวกับหลังคาพระที่นั่งที่พระบรมมหาราชวัง มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ ราคสะดุ้ง ทางทิศใต้มุขเด็จมีชานชาลา เชื่อมต่อกับชานชาลาพระที่นั่งพิมานปฐม หน้าบันมุขเด็จแกะสลักรูปพระราชสานส์
ภายใต้วงรัศมี ที่มีกรอบล้อม ภายในประดับกระจกสีน้ำเงิน มีสาหร่ายรวงผึ้งห้อยลงระหว่างเสาหน้ามุขอย่างงดงาม หน้าบันทางด้านทิศตะวันออก มีลวดลายช้างเอราวัณ บนหลังมีสัปคับลายทองตามแบบช้างทรงของกษัตริย์ หน้าบันทางด้านทิศตะวันตก มีลวดลายเหมือนกับหน้าบันมุขเด็จแต่ใหญ่กว่า พระทวารและพระบัญชรพระที่นั่งทั้งสองชั้น ลักษณะคล้ายซุ้มเรือนแก้ว มีบันแถลงเสียบไว้ทำยอดวชิราวุธ ภายใน มีเลข ๖ อยู่ใต้มหามงกุฎ ล้อมลายกนก ลงรักปิดทองภายในพระที่นั่งฯ เพดานห้องทาสีแดงชาด ชั้นบนเป็นไม้แกะสลักดวงดาราลงรักปิดทองประดับกระจก ชั้นล่างเพดานห้องทาสีแดงชาดลงรักปิดทองเป็นลวดลายดวงดารา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ทรงใช้เป็นที่ประทับและทรงอักษรเป็นครั้งคราว ปัจจุบันชั้นบนจัดแสดงห้องบรรทม

พระที่นั่งสามัคคีมุขมาตย์ 

เป็นโถงใหญ่หลังคาเชื่อมต่อกับพระที่นั่งวัชรีรมยา มีเครื่องประดับหลังคาเหมือนกัน หน้าบันทางทิศเหนือเป็นรูปจำหลักท้าวอมรินทราธิราชประทานพร ประทับอยู่ในพิมานปราสาทสามยอด พระหัตถ์ขวาทรงวชิระ พระหัตถ์ซ้ายประทานพร แวดล้อมด้วยบริวารอันมีเทวดาและมนุษย์ห้าหมู่ ภายในมีเสานางจรัลทรงแปดเหลี่ยมทำเป็นลายกลีบบัวจงกลโดยรอบทั้งต้น พระที่นั่งสามัคคีมุขมาตย์ ใช้สำหรับเป็นที่ประชุมเสือป่า ประกอบพิธีกรรม ซ้อมและเล่นโขนละคร
พระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ 
คล้ายปราสาทขนาดย่อม แบบสถาปัตยกรรมเรอเนซองค์ของฝรั่งเศส ผสมผสานกับฮาลฟ์ทิมเบอร์ของอังกฤษ ทาสีไข่ไก่ หลังคามุงกระเบื้องสีแดง ชั้นบนประกอบด้วยห้องพระบรรทม ห้องทรงอักษร ห้องสรง ชั้นล่างมี 1 ห้อง คือ ห้องรอเข้าเฝ้า ชั้นบนและล่างมีระเบียงโดยรอบทั้งสามด้าน (ยกเว้นด้านหลัง) ทางด้านตะวันออกและตะวันตกมีเฉลียงเป็นรูปครึ่งวงกลม เสาใหญ่ทางกลมคล้ายเสาหอคอยของปราสาท สร้างใน พ.ศ. ๒๔๕๑
หลัง พ.ศ. ๒๔๕๙ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๖ ทรงประทับที่พระตำหนักชาลีมงคลอาสน์เป็นประจำ ในฐานะที่ทรงเป็นผู้บัญชาการเสือป่า เมื่อมีการซ้อมรบเสือป่า ณ พระราชวังสนามจันทร์

ฉนวนทางเดินทำเป็นสะพานเชื่อมต่อกันระหว่าง พระตำหนักชาลีมงคลอาสน์
และ พระตำหนักมารีราชรัตบัลลังก์
พระตำหนักมารีราชรัตบัลลังก์ 
เป็นพระตำหนักที่สร้างด้วยไม้สักสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิก สร้างขึ้นคู่กับพระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ มีฉนวนทางเดินทำเป็นสะพานเชื่อมต่อกัน พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๖ โปรดเกล้าให้สร้างใน พ.ศ. ๒๔๕๙ โดยมีหม่อมเจ้าอิทธิเทพสรร กฤดากร เป็นสถาปนิกออกแบบเช่นเดียวกับพระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ พระตำหนักนี้ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๖ ทรงโปรดเกล้าให้ใช้เป็นที่ประทับของเจ้านายฝ่ายใน

พระตำหนักทับขวัญ 
เป็นเรือนไทยที่สมบูรณ์แบบ ออกแบบและควบคุมการก่อสร้างโดยพระยาวิศุกรรมศิลป์ประสิทธิ์ (น้อย ศิลปี) ประกอบด้วยเรือนใหญ่ 4 หลัง เรือนเล็ก 4 หลัง หันหน้าเข้าหากันทั้ง 4 ทิศ เรือนใหญ่ประกอบด้วย เรือนโถง เรือนครัว และหอนอน 2 หอ (หอนอนทางด้านทิศใต้เคยเป็นห้องบรรทมของรัชกาลที่ ๖ มาก่อน) บริเวณกลางเรือนปลูกต้นจัน (ต้นไม้ประจำจังหวัดนครปฐม) เพื่อเพิ่มความร่มรื่นให้แก่เรือน


เทวาลัยคเณศร์
พระคเณศร์ หรือ พระพิฆเนศวร เทพเจ้าผู้มีเศียรเป็นช้าง เจ้าแห่งศิลปะวิทยาการ การประพันธ์ ผู้ขจัดอุปสรรคทั้งมวล เทวาลัยคเณศร์ตั้งอยู่ที่สนามหญ้าหน้าพระที่นั่งพิมานปฐม
อนุสาวรีย์ย่าเหล 
“ย่าเหล” เป็นสุนัขพันทาง หางเป็นพวงสีขาวด่างดำ ย่าเหลมีความเฉลียวฉลาดและจงรักภักดีต่อพระเจ้าอยู่หัวอย่างมาก จึงเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๖ เป็นอย่างยิ่ง

ก่อนกลับในคืนนั้น ผมได้มีโอกาสชมพลุ และดอกไม้ไฟ เฉลิมพระเกียรติ ที่จัดแสดงได้อย่างอลังการ สวยงามจริงๆ ครับ

บริเวณสนามหญ้ารอบๆ เทวาลัยคเณศร์ มีผู้คนนั่งเฝ้ารอชมดอกไม้ไฟเป็นจำนวนมาก
ที่มา  http://www.edtourcenter.com/scoop/scoop_100yearssanamjunpalace.htm
เที่ยวฟอล์กแลนด์ และ แอนตาร์กติกากันดีกว่า


http://

เรือ Star Princess เทียบท่าจะขวักไขว่ด้วยนักท่องเที่ยวที่มากับเรือ


วิวของสระว่ายน้ำและเรือ Star Princess เมื่อเทียบค่าก็จะเป็นภาพที่สวยอีกแบบหนึ่ง



สถาปัตยกรรมแบบสเปนมีให้เห็นทั่วไปในกรุงบัวโนสไอเรส

เมืองหลวงมอนเตวิเดโอ(Montevideo)


ภาพในที่ทำการของรัฐบาลที่มีความสวยงามและเป็นหนึ่งใน

สถานที่ท่องเที่ยวเชิดหน้าชูตาของกรุงบัวโนสไอเรส

หน้าอาคารรัฐสภาสถาปัตยกรรมอันงดงามของเมืองหลวงมอนเตวิเดโอ ( Montevideo ) ของอุรุกวัย


ที่ทำการรัฐบาลซึ่งเป็นตัวแทนของรัฐบาลอังกฤษ

ที่มาhttp://www.truenaturephoto.com/2010/smf/index.php?topic=38.0